วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555

KZM : Resources

Links ที่สนทนากันเกี่ยวกับ KZM

คลับอิสรภาพทางการเงิน http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/?subgroup=6

แล้วจะมี Links เกี่ยวกับ KZM ... ถ้าเข้าใจ concept ตอนต้น เข้าไปไล่ตามอ่านจะสนุกมากๆ ครับ ... นี่ผมกลับไปอ่านมาตะกี้ ยัง อ๊ะ ทำไมเข้าใจบางเรื่องมากขึ้น ทั้งๆ ที่ตอนนั้นอ่านผ่านไปแล้วนี่นา

ขอให้สนุกกับตลาดหุ้นครับ

KZM : Before next step

ถึงตรงนี้ ผมขอแสดงความเห็น และ ประสบการณ์ส่วนตัวให้อ่านกันก่อน

ระบบ KZM ไม่ไช่การที่รายย่อยจะลงทุนด้วยเงิน 100,000 - 1,000,000 แล้วจะรวยเป็น 50 ล้านภายในระยะเวลาอันสั้นๆ ... มันเป็นระบบที่จะฝึกฝนตัวเราเองในการลงทุน การปกป้องเงินลงทุนที่เราเคยอ่านเจอในหนังสือหุ้นหลายๆเล่ม มันคือการสร้าง baseline นั่นเอง

จากประสบการณ์ของผม ที่ซื้อขายตามเทคนิค ปัญหาใหญ่คือ โดนเทคนิคหลอก และ การเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ปัญหาคัทลอสจนเงินเหลือน้อย หรือ เงินแทบหมด ปัญหาการพยายามหา ระบบ Perfect system trade

ทั้งหมดเหล่านี้ ไม่รู้เคยเจอกันหรือเปล่า แต่มันเป็นปัญหากับตัวผมมาก ที่จะต้องหาข่าวสาร คาดการณ์ล่วงหน้า การกลัวโดนหลอก การแก้พอร์ตด้วยการเลือกหุ้นใหม่ (เลือกแล้วก็ถูกๆ ผิดๆ)

....

จริงๆแล้ว หลักการที่ศึกษามา ไม่ผิดหรอก ถ้าเราลงทุนด้วย กำไรที่เรามี และ เงินทุนเรายังอยู่ครบ

หลักการของ KZM ตอบตรงนี้ได้ครับ ส่วนในทางปฏิบัติ ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลแล้วว่าจะมีวิธีการออกแบบ baseline ของตนเองยังไง ... การคิดขึ้นมาเอง มันจะทำให้เรา เกิดความสามารถด้านอื่นๆ ขึ้นมาได้ เช่น การสังเกตุตลาด การฝึกทำข้อมูลสรุป การหาวิธี simulation การคิดวิธีการเทรดแบบอื่นๆ โดยรักษาต้นทุนได้ตลอด

....

ข้อสังเกตุ 
1. KZM จะไม่มีการคัทลอสเพราะเราแบ่งเงินไว้แล้ว ถึงหุ้นจะไปแกว่งโซนล่างๆ ก็มีเงินเล่น
2. เพราะการคัทลอสคือการขายของคืนให้เขาไปนั่นเอง คนที่ขายให้เราแพง จะรอซื้อคืนในราคาต่ำกว่า
3. KZM จะลงทุนใน ETF เท่านั้น ถ้าเล่นหุ้นรายตัว ความเสียเปรียบของ KZM ในหุ้นรายตัวคือ การโดนหุ้นเพิ่มทุน คือ เจ้าของออกหุ้น เอาเงินสดเข้าตัว มีหุ้นในตลาดเพิ่มขึ้น ต้นทุนที่เราเก็บจะเสียเปรียบเจ้าของเสมอ ... แต่ ETF คือการกระจายตัวตามดัชนี


ทั้งสามเรื่อง เป็น พื้นฐานที่อยากให้เพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่าน สร้างให้แข็งแรง
ตัวผมเองก็กำลังสร้างเหมือนๆ กัน ... บทความต่อๆ ไป ตั้งใจว่าจะเป็นการสรุปความหมายจากการฟัง The genius trader ที่คุณมัดเลย์เคยลงไว้ (ส่วนตัวฟังภาษาอังกฤษไม่เก่งนะครับ แต่จะพยายามจับดูครับ)

สวัสดีครับ

KZM : The baseline

หลักการของ Baseline
ต้องหากระแสเงินสดจาก ETF ทำไมต้องเป็น ETF เพราะ กองทุนนี้เป็นตัวแทนของตลาด อยู่นานกว่าหุ้น (เหตุผลมีมากครับเอาว่าลองไปหาอ่านดูก่อนก็ได้) จากนั้นให้แบ่งเงินที่มีอยู่ ออกเป็นส่วนๆ เพื่อเทรด ETF ได้ทุกราคา ไม่ว่าราคาจะวิ่งลงมาจนต่ำสุด ถ้าเลวร้ายสุดๆ คือ 0.01 บาท (ตลาดหุ้นคงต่ำกว่า 100 จุด) หรือตลาดพังไปเลย ก็ต้องทำใจนะครับ อนิจจัง ไม่เที่ยง ที่นี้จะคำนวนเงินยังไง เอาตัวอย่างที่ผมทำใน Google Docs
แล้วกัน

 

ตัวอย่างนี้ ผมวางไว้ว่า จะเทรดทีละ 100 หุ้น ที่ราคา TDEX ที่ 8.5, 8.4, 8.3, ..... จนถึง 1.6 บาท ต้องใช้เงินคร่าวๆ ประมาณ 36,000 บาท ... หลักการทำกำไรคือ เมื่อแต่ละโซนขึ้น 0.10 บาทให้ขาย อันนี้เป็นตัวอย่างจริง จะเห็นว่า ผมติดดอยอยู่ที่ 8.52 ตั้งแต่ 11 May 2012 ซื้อแล้วขายไม่ได้ ราคาลงมาตลอด แต่ความกลัวมีใหม "ไม่มี" เพราะเรามีเงินเผื่อไว้แล้ว ... อาจจะเห็นบางโซนราคามันแปลก เช่น โซน 8 บาท ผมซื้อได้ 7.94 เพราะวันนั้นราคาเปิดกระโดดลง ทำให้เราได้ราคาต่ำกว่าที่คิด และเวลาขาย ต้องขาย 8.10 แต่วันนั้นเปิดกระโดดขึ้นแล้วมาตั้งขายทีหลังเพราะลืมตั้งตอนกลางคืน เลยทำให้ขายได้ที่ 8.18

 

อ่านมาถึงตรงนี้ อาจจะมองว่า แค่กำไรครั้งละ 6 บาทเนี่ยนะ จะทำอะไรได้ อันนี้ให้ต่อยอดครับ ...

กลับไปที่การวางเงินทุกโซนก่อน จะเห็นว่าเราใช้เงิน 36,000 ต่อช่วงราคา 1.6 - 8.5 ต่อวิธีการเทรด 1 แบบ

ถ้าเรามีวิธีเทรดแบบที่สอง เช่น การเทรดแบบใช้สัญญาณ Moving Average ก็กันเงินออกมาอีก 36,000 ต่อช่วงราคา 1.6 - 8.5

ตามหนังสือเทคนิคทั่วไปจะสอนเรื่องการ "คัทลอส" การคัทลอส คือ การให้เงินคืนเขาไปครับ (จากงานสัมมนาเลยนะ) จำนวนหุ้นเท่าเดิม แต่ขายคืนราคาถูกลง

หากเราจะประยุกต์ใช้การวางโซน คือ เมื่อมีสัญญาณ ให้ซื้อรวบทุกโซนที่เผื่อไว้เลย ตัวอย่าง มีการทำ new high เราก็ซื้อ TDEX ที่ 8.19 ราคาเดียวคลุมไปถึง 8.5 ถ้าสัญญาณผิด ซื้อแล้วลง ... ไม่เป็นไร ลงมาอีก สมมติลงมาที่ 6.5 บาทแล้วยืนได้ จนทำ new high ก็ให้ซื้อที่ราคา 6.6x - 6.7x รวบจนมาถึงราคา 8.1 เพราะโซนมันว่างอยู่ ถ้าสัญญาณถูกก็ปล่อยวิ่งไป จนมีสัญญาณขาย เช่น MA ตัดลง อะไรก็แล้วแต่



อันนี้เป็น Level 1 นะครับ สร้าง baseline หากระแสเงินสดจากการเหวี่ยงของราคา ... ยังไม่ได้เริ่มเก็งกำไรนะครับ

KZM : High Level Concept

blog นี้เป็นการสรุป KZM Model ตามที่ผมได้ติดตาม รวมถึงไป Meeting มาด้วย

KZM Model ย่อมาจาก Killer Zone Model เริ่มต้นมาจากคุณ Mudleygroup นำแนวคิดมาเผยแพร่ใน Pantip ห้องอิสรภาพทางการเงิน http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/?subgroup=6 และมีการซักถามกันมากในกระทู้จนกระทั่งได้จัดสัมมนาเล็กๆ ขึ้นมาเพื่ออธิบายการต่อยอด ซึ่งการสัมมนาครั้งนี้ เป็นแนวคิดล้วนๆ ที่เปลี่ยนวิธีคิดในการเทรดหุ้นของผมไปเลย ต้องนับถือคุณ Mudleygroup ที่ใจกว้างมากๆ ที่เผยแพร่ประสบการณ์นี้

ต่อไปนี้เป็นสรุปความเห็นส่วนตัวของผม ตามความเข้าใจและที่ผมนำมาปฎิบัติเท่านั้นนะครับ อาจจะไม่ถูกต้อง 100% ตามต้นฉบับ อ่านแล้วกรุณาคิดแตกต่าง และ พิจารณาก่อนนำไปใช้จริง

Concept การบริหารเงินเทรดหุ้นด้วยหลักการ KZM


1. สร้าง Baseline หากระแสเงินสด

Baseline คือระบบที่สามารถทำเงินได้ตลอดเวลาไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร หลักของ KZM ไม่ไช่การซื้อหุ้นพื้นฐานดีเพื่อรอปันผล แต่เป็นการลงทุนใน ETF แล้วทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา ETF ตามดัชนี

เรื่องตัวอย่างการสร้าง baseline จะเอาไว้ทีหลังนะครับ เอาเรื่องหลักการก่อน

ต่อมาจะทำกำไรให้มากขึ้นได้อย่างไร ... ถ้ามีกำไรสะสมมากพอที่จะซื้อหุ้นได้ ให้เลือกความถนัดของตนเอง คราวนี้ งัดตำรามาใช้ได้ เช่น หุ้นพื้นฐาน หุ้นปั่น หุ้นตามข่าวลือ แล้วแต่จะคิด

ผมเองลองยกตัวอย่างว่าเราจะเข้าหุ้นปั่น จะด้วยเทคนิคหรือข่าวลือก็แล้วแต่ ก็จะเป็นในรูปแบบนี้



ถ้าซื้อหุ้นปั่นแล้วเจ๊งล่ะ ... ที่เจ๊งคือกำไร ไม่ไช่ทุน อย่าคิดมาก แสดงว่า ฝีมือยังไม่เข้าขั้น เลือกหุ้นไม่เป็น ต้องฝึกฝนเพิ่มต่อไป แต่ที่หายไปคือ กำไร ส่วนระบบ baseline ยังทำเงินให้เราอยู่

ถ้ากำไรสะสมเยอะ ก็ซื้อหุ้นปั่นได้หลายตัว ตัวไหนทำกำไรได้ ก็จัดการนำมาสะสมซะ



ทั้งหมดคือ High level concept ของ KZM Level 1 - 2

ตอนต่อไปจะมาว่ากันด้วยเรื่อง วิธีการสร้าง baseline นะครับ