วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แนวคิดเรื่องการเล่นอนุพันธ์ - Long Only

สัปดาห์ที่แล้ว ได้คุณกับเพื่อนที่รู้จักทางเวบบอร์ดและ facebook ชื่อคุณช้าง ...

คุณช้างได้แนะนำเรื่องการวางกลยุทธ Future และ Single Stock ผมมานั่งคิดๆ ดู ถ้าเรามีเงินมากถึงระดับนึง เราก็สามารถ cover การเล่น future ได้โดยไม่เสี่ยง

จากหลักการ TFEX 1 contract = มูลค่า SET50 X 1000 = tdex x 100,000 หุ้น เช่น SET50 800 จุด คือ 800,0000 บาท หากเราเล่น Long ต้องมีเงินที่จะเสียเท่านี้โดยการลงเงินประกันไว้ 50,000 บาท หากหุ้นลงไปถึง 0 ก็จะเสียทั้งหมด 800,000 คิดเป็นกรณีเลวร้ายจริง

แล้วหากเราเป็นกองทุนจะเล่นยังไง ตามหลักการ KZM คำนวนทุนที่จะเสียทั้งหมด ในกรณี Long ทุกๆ 50 จุด เก็บจนถึงดัชนี SET50 - 900 จุด จะเสียเงินประมาณ 8,500,000


ในความจริง ดัชนีจะแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ  เวลาเทรด เช่นดัชนีตกมาที่ 800 ก็ Open Long Zone 800, หากตกลงมาอีกที่ 750 ก็ Long อีก พอมันแกว่งตัวขึ้น อาจจะ 790 ก็ทำกำไร Zone 750 ซะ

กำไรที่ได้คือ 40x1000 =  40,000 บาท  
โดยไม่ต้องคัทลอสเลย และแทนที่จะซื้อหุ้น 800,000 และ 750,000 (สภาพคล่องก็ไม่ค่อยจะมี)
ก็แค่วางเงินสดประกันไว้ เงินสดที่เหลือจะไปลงพันธบัตรระยะสั้นบางส่วนยังไงได้

กรณีสัญญาหมดอายุก็โดยดัชนีไม่เกิน 800 ต้อง Roll over ไป คือ ถือ Zone 800 ต่อไป ต้นทุนคือค่าคอม

หากลองแบ่งโซนมาเป็นทีละ 10  จุด ... แล้วมีกอง A,B,C,D .... คำนวนแล้วกองละ 40 ล้าน ทั้งหมดก็ 120 ล้าน ... หากหุ้นลงหนักๆ แบบที่ว่า คนจะเลิกเล่น  Future แล้ว ก็เอาเงินสดทีกันไว้ ไปซื้อหุ้นจริงยังได้ เป็นการเก็บทรัพย์สินจริง รอวันตลาดกลับมา

จะเห็นว่าแค่คิดง่ายๆ กองทุนเล็กๆ ยังมองเห็นกำไรมากกว่าขาดทุน ... ผมว่าจุดบอดของการเทรดแบบนี้คือ ไม่มีสภาพคล่องของสัญญา ซึ่ง SET50 Index Future ติดตลาดไปแล้ว ส่วน Single Stock Future นั้น หากราคาไม่สูง สภาพคล่องยังน้อย ผมมอง BTS กับ QH แล้ว ยังไม่เห็นโอกาศนัก

คิดว่าแลกเปลี่ยนกันนะครับ
^_^