วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ความเข้าใจจากบทแรก All About Risk

สิ่งที่ได้บทแรก All About Risk

อัน นี้อย่าถือว่าเป็นการแปลเลย ภาษาอังงกฤษผมก็ไม่เก่งมาก แต่อยากทำเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นกัน หรือ อาจจะเป็นการแชร์ความรู้กันนะครับ เอาเป็นว่าฟังแล้วเข้าว่ายังไง ก็เขียนอย่างนั้น คงมีผิดเพี้ยนไปบ้าง หากสนใจฟังต้นฉบับก็โหลดได้จากเวบ http://thegeniustrader.com/ นะครับ

สิ่ง ที่เข้าใจจากมาร์ติน ประโยคแรกที่ประทับใจเลยคือ “Trading is not easy way to make money, it’s a skill and every skill takes time” … ความจริงจากประโยคนี้คือ ผมเข้ามาสนใจหุ้นเพราะคิดว่ามันทำเงินได้ง่าย แค่ก็ซื้อ ขาย ไม่ต้องทำธุรกิจ ไม่ต้องออกไปหาตลาด ถ้าหาอ่านหนังสือแล้วทำตาม โดยไม่นึกว่า เบื้องหลังการซื้อๆขายๆ ในกระดานที่วิ่งๆ กันนั้น มีอะไรอยู่บ้าง ประกอบกับลักษณะนิสัยของคนเรา อยากได้ผลตอบแทนสูง ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงสูงๆ อันนี้น่าจะเป็นมาแต่อดีตติดตัวมนุษย์ถ้ำ เช่น หากหากินปกติ ก็ปลูกข้าว ผัก หาปลาง่ายๆ กิน อยากกินเนื้อที่อร่อยขึ้น ก็ต้องออกไปวิ่งล่ากวาง แต่เสี่ยงกับการโดนสัตว์ร้ายกินเพราะเสือก็จะมากินกวางเหมือนกัน … มาถึงทุกวันนี้ การพนัน เสียเงินเล็กน้อย เพื่อหวังลาภก้อนใหญ่ คนเรายอมเสีย ทั้งๆที่เสียบ่อยๆ เสียกันทุกเดือน ก็คิดว่าเป็นการซื้อความหวัง เหมือนเรื่องหุ้น ยอมเสียเงิน เพื่อให้ได้กำไรสูง เช่น ซื้อเหอะ ลงก็คัทลอสซะ ถ้ากำไรก็ถือยาว

มาร์ ตินแนะนำให้เปลี่ยนความคิด ต้องเลิกกล้าได้กล้าเสีย ให้หาทางคำนวนและเล่นกับความเสี่ยงแทน … ความเสี่ยงนี้ หมายถึง ความไม่แน่นอนของตลาด ไม่มีใครรู้อนาคต แล้วจะทำยังไง … เท่าที่ผมจด Key Massage ไว้

How you manage your risks, follow a plan, committing your goals and creating strategy that allow you to take action and make decision align with your goals. This gonna be a best way to managing your risks.

การ วางแผน กลยุทธ์ เป้าหมาย … (เออ แล้วทำไงล่ะ) … ทั้งหมดที่ต้องทำขึ้นมาเพื่อให้เรามีสติ สนใจกับภาวะตลาดในปัจจุบัน เลิกเสีบดายอดีต รู้งี้ เลิกกังวลอนาคต ซื้อแล้วลง ขายแล้วขึ้น ให้เราอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด มาร์ตินได้แนะนำ 3 ข้อ

1. เก็บสถิติการเทรด แล้วดูว่าเราเป็นไง
นับ ว่าเราเทรดใน หนึ่งสัปดาห์ หนึ่งเดือน กี่ครั้ง แล้วเทรดไปได้กำไรกี่ครั้ง ครั้งละกี่เปอร์เซนต์ … มาร์ตินพูดถึงกำไรเวอร์ แบบ 200%, 300% นั้น ไม่ต้องไปเน้น เพราะมันนานๆ เกิดที ปกติกำไร 20%, 40%, 50% ก็นับมา แล้วมาหาค่าเฉลี่ยของเปอร์เซนต์กำไร อัตราส่วนระหว่าง Win / Loss

2. เพิ่มจำนวน Contracts หรือจำนวนหุ้น แล้วจดไปว่ารู้สึกยังไง … รู้สึกลุ้นมากขึ้น ไหล่ตึง ใจเต้นแรง (ผมว่าประมาณ มีสติตามดูรู้ทันกาย … เข้าปฎิธรรมได้เลยนะ 555) … อารมณ์ขณะนั้น

3. Trade in present moment … ชอบประโยคนี้มาก ลองฝึกสนใจภาวะตลาดปัจจุบันและเข้าเทรด ฝึก Relax ขณะเทรด แม้ว่าอารณ์จะตื่นเต้น เทรดตามแผนที่วางไว้ แม้ว่าจะซื้อแล้วลง ขายแล้วขึ้น ให้ทำตามแผน หากเสียดายก็จดอารมณ์ไว้ว่าเสียดายแล้วเทรดต่อ

ทั้งสามข้อนี้ ให้เริ่มโดยใช้ Size เล็กๆ ก่อน ผมนึกถึง KZM นะ … ใช้ได้เลย คนคิดนี่เก่งจริงๆ ^_^

หลัง จากนั้น มาร์ตินน่าจะสื่อว่า เราต้องฝึกการตัดสินใจ การลงมือ เมื่อตลาดเปลี่ยนแปลง โดยพยายามอย่าเทรดตามความรู้สึก ความเชื่อของเรา พฤติกรรมของตลาดไม่เคยเปลี่ยน เพราะคนเราก็มีพฤติกรรมแบบเดิมๆ โดยไม่รู้ตัว … ตัวเราเองก็เช่นกัน ไม่ต้องควบคุมความรู้สึกตัวเอง ว่า อย่าโลภ อย่ากลัว ให้มันเกิดขึ้น และ สังเกตุมัน เฝ้าดูมัน แต่อย่า take action ตามมัน

เทรดเดอร์ ส่วนใหญ่ มักคิดว่าตัวเอง ต้องรู้ข้อมูลของตลาดทุกๆ อย่าง เพื่อการคาดการณ์ตลาดได้ถูกต้อง เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปในการเสาะหาข้อมูล อาจจะมากเกินไปด้วยซ้ำ … ความรู้เกี่ยงกับตลาดเป็นสิ่งดี ไม่ว่าจะเป็น Technical, Fundamental, Money Management, จิตวิทยามวลชน, การมีสติ แต่มันมีระดับของมันอยู่ การ balance และนำมาใช้งานจริงต่างหาก ที่เป็นตัวตัดสิน

หาก เริ่มต้นตอนนี้ ลองดูที่การวางแผนข้างต้นและเข้าเทรดด้วย Size ที่เล็กพอที่จะไม่เกิดความกลัวมาก ให้รู้ทุกครั้งว่า When how and where you trade and take profit, ถ้าเกิดความรู้สึกเสียดาย รู้งี้ ให้จดไว้ ลงวันที่ เวลา สาเหตุไว้ด้วย เช่น วันที่ xxx เวลา xxx หุ้นที่เล็งไว้ วิ่งไป 10% รู้งี้ซื้อก็ดี เล็งไว้นานแล้ว

Accepting yourself, are you setting a goal and your create amount of your risk to achieve your goals. Just being aware of your personality and you will find the solutions.

….

นี่ แค่บทที่หนึ่ง ฟังหลายรอบมาก แต่ก็ดี ฝึก skill การฟังและทำความเข้าใจ อาจจะเข้าใจไม่หมดและแปลไม่ถูกบ้างนะครับ แต่ผมว่ามีประโยชน์นะ … และโชคดีที่คุณต้านคิด KZM ขึ้นมา เป็น Model ที่ใช้ฝึกได้ดีทีเดียว

จบตอนนี้ก่อนนะครับ …